หากจะพูดถึงประเทศที่ชาวไทยนิยมเดินทางท่องเที่ยวทั้งระยะสั้นและยาวเป็นอันดับต้น แน่นอนว่าจะมองข้ามประเทศญี่ปุ่นไปไม่ได้เด็ดขาด
แต่เชื่อว่าสำหรับสายตะลอนญี่ปุ่นหลายคนที่รู้จักแดนอาทิตย์อุทัยแห่งนี้แบบทะลุปรุโปร่ง รวมถึงไปเยือนเกือบทุกตรอกซอกซอยของเมืองใหญ่ ๆ ของญี่ปุ่นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน อาจจะเริ่มเจอปัญหาหนักใจ เพราะไม่รู้ว่าจะไปที่ใดไม่ให้ซ้ำใคร หรือไม่ให้ซ้ำเดิมกับที่เคยไปครั้งก่อน ๆ ดี
หลังจากนี้ไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว เพราะ Samurai Sim ขอมานำเสนอ 4 สถานที่ท่องเที่ยวในเกาะคิวชู เมืองใหญ่ของญี่ปุ่นที่คนไทยบางคนอาจยังมองข้าม โดยที่ทั้ง 4 จุดนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวไทยไม่คุ้นเคย แถมยังเหมาะสมสุด ๆ กับสายถ่ายภาพเช็กอิน รับรองว่าอัปเดตลงโซเชียลได้ไม่มีเอ้าท์แน่นอน
Teamlabs Kyushu
พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลสุดอลังการ ในคอนเซปต์ “สวนแห่งพระเจ้า”
โดยปกติแล้ว สายถ่ายภาพเช็กอินชาวไทยจะรู้จักนิทรรศการศิลปะ Teamlabs นี้แค่ที่สาขาโตเกียวเท่านั้น แต่ใครเลยจะรู้ว่าที่คิวชูก็มีกับเขาเหมือนกัน แถมไม่ซ้ำกับที่โตเกียวอีกต่างหาก
ที่คิวชู ณ Mifuneyama Rakuen Park สวนเก่าแก่ พื้นที่ 500,000 ตารางเมตร ถูกเนรมิตให้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัล ด้วยแสงสีเสียงอลังการ ภายใต้คอนเซปต์ “A Forest Where The Gods Live” ซึ่งนี่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Digitized Nature หรือการใช้เทคโนโลยีทางดิจิทัล มาเนรมิตธรรมชาติให้กลายเป็นศิลปะโดยไม่ทำลายระบบนิเวศ
ด้วยภูมิประเทศอันครบพร้อมไปด้วยป่า สวนหิน และถ้ำ ซึ่งก่อร่างขึ้นมาเหนือการเวลา จึงทำให้จุดเด่นของที่นี่ คือการเดินเยี่ยมชมภูมิทัศน์ซึ่งกลมกลืนไปกับธรรมชาติภายในสวน Mifuneyama Rakuen Park ได้อย่างลงตัว และไฮไลท์หลักอันเป็นจุดขาย คือต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อายุกว่า 3,000 ปี “ต้นโอคุสุ” อันโด่งดังที่อยู่คู่กับศาลเจ้าทาเคโอมาอย่างช้านาน
แต่ที่ต้องรีบเตือนไว้ก่อน คือสวนแห่งพระเจ้าแห่งนี้ จะเปิดจัดแสดงถึงแค่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2023 นี้เท่านั้น ฉะนั้นหากใครอยากไปเยือนจะรอช้าไม่ได้เด็ดขาดนะ
Kagaminoumi
ถ่ายภาพด้วยมุมมองสุดโรแมนติก ท่ามกลางน้ำทะเลใสสะท้อนราวกระจก
หรืออีกชื่อก็คือทะเลกระจกแห่งฟุคุทสึ (Fukutsu Sea Mirror) ถือเป็นจุดเช็กอินที่สายแชะชาวญี่ปุ่นไม่มีทางไม่รู้จัก แม้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอาจจะไม่คุ้นเคยกันสักเท่าไหร่
ทะเลกระจกแห่งนี้ เกิดขึ้นจากชายฝั่งน้ำตื้นทอดยาวประมาณ 3 กิโลเมตร อันกำเนิดมาจาก 3 ชายหาดทอดต่อกัน ได้แก่หาดฟุกุมะ หาดมิยะจิฮามะ และหาดสึยาซากิ โดยเมื่อน้ำลงจากชายหาด หาดทรายแห่งนี้จะดูเหมือนกระจกที่สะท้อนเงาท้องฟ้าให้เห็นบนพื้นอย่างชัดเจน จึงกลายเป็นจุดยอดนิยมที่ไม่ว่าใครก็สามารถถ่ายภาพออกมาให้สวยได้ ไม่เว้นกระทั่งมือใหม่ที่มีเพียงสมาร์ทโฟนเท่านั้น ขอเพียงมีใจและมุมกล้องดี ๆ ก็พอ
อ้อ ! ต้องบอกไว้ก่อนว่าในแต่ละวัน เวลาที่น้ำขึ้น – ลงจะไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้น ก่อนไปแนะนำให้ดูพยากรณ์น้ำขึ้นน้ำลงจากเว็บไซต์หลักอย่างเป็นทางการ (https://kagaminoumi.com/en/) ก่อนนะ จะได้ไม่แห้ว
Sakurai Futamigaura
ชมพระอาทิตย์ตกดิน ในจุดชมวิวที่เลื่องชื่อที่สุดในคิวชู
Sakurai Futamigaura แห่งเมืองอิโตะชิมะ ถือเป็นจุดชมวิวที่ชาวญี่ปุ่นทุกคนได้ยินชื่อแล้วต้องมีอ๋อ เพราะมีชื่อเสียงอย่างมาก ว่าเป็นตำแหน่งชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่งดงามและชัดเจนที่สุดในญี่ปุ่น และนอกจากนี้ ที่นี่ยังถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่ยุคโบราณ โดยเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าซากุไร ที่ปัจจุบันเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของเมืองไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย
จุดเด่นของที่นี่คือหินเมโอโตะอิวะ หินศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ห่างจากชายฝั่งไปประมาณ 150 เมตร โดยเป็นหินสองก้อนที่มีเชือกชิเมนาวะเส้นใหญ่ ๆ คล้องพาดไว้ด้วยกัน และศาลเจ้าซากุไรจะมีการจัดพิธีกรรมเปลี่ยนเชือกที่ว่านี้ในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นพฤษภาคมของทุก ๆ ปี
และที่เป็นไฮไลต์ยิ่งกว่านั้น คือหากมาถูกช่วง จะมีโอกาสได้ถ่ายภาพสวย ๆ ขณะพระอาทิตย์ตกผ่านช่องว่างระหว่างเมโอโตะอิวะทั้งสองก้อนนี้ในช่วงเดือนมิถุนายน และวิวพระจันทร์ผ่านช่องหินในช่วง 6.00 น. – 7.30 น. ในช่วงวันที่ 16 พฤศจิกายน ตามปฏิทินจันทรคติของทุกปีอีกด้วย และยังไม่รวมถึงคาเฟ่มากมายที่มาเปิดรอบ ๆ ตอบโจทย์สาย Cafehopping ที่มาได้ทุกจังหวะแบบไม่จำเป็นต้องรอฤดูกาล
Mojiko retro
เมืองท่าสไตล์เรโทร ด้วยฟีลแอนด์ไวบ์ยุโรปที่คงกลิ่นอายญี่ปุ่นไว้เต็มเปี่ยม
Mojiko แห่งนี้ ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองท่าที่รุ่งเรืองสุด ๆ ในอดีต รวมถึงยังเป็นท่าเรือแรก ๆ ในญี่ปุ่นที่ใช้เป็นจุดรองรับเรือค้าขายจากต่างชาติที่เข้ามาเยือน จึงไม่ต้องแปลกใจ ว่าเหตุใดจึงได้กลายเป็นจุดที่ได้รับอิทธิพลจากยุโรปค่อนข้างมาก จนก่อกำเนิดเป็นศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบผลมผสานมาแบบเต็ม ๆ
ด้วยเอกลักษณ์ของความ East meet West ไม่ซ้ำใครแบบนี้ จึงทำให้ไม่ว่าจะแพลนกล้องถ่ายภาพจากมุมใดในเมืองนี้ก็สวยไปหมด โดยนอกจากตึกรามบ้านช่องแล้ว ยังมีอีกจุดที่พลาดไม่ได้ คือทางเดินเลียบชายหาด ให้ได้เดินชมบรรยากาศพร้อมรับ Vitamin Sea จากน้ำทะเลใส ๆ ให้เต็มที่
หากจะให้แนะนำ ควรมาที่นี่ในช่วงเย็นไปจนถึงค่ำ ๆ นะ รับรองว่าจะจะให้มู้ดโรแมนติกแบบสุด ๆ ไปเลย
พออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เชื่อเลยว่าหลาย ๆ คนต้องเตรียมตัวแพ็กกระเป๋า จองตั๋วไปเยือนญี่ปุ่นแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ก่อนจะเดินทาง อย่าลืมจองบริการอินเทอร์เน็ตของ Samurai Sim ที่มีทั้งบริการ Pocket WiFi ซิมการ์ด และใหม่ล่าสุด eSIM พร้อมสัญญาณคมชัดจัดเต็ม ครอบคลุมทั่วประเทศญี่ปุ่น
ขอเตือนว่าอย่ารอช้า รีบติดต่อเราด่วน ๆ เลยนะ !
