4 เมืองสำหรับเที่ยวแบ็กแพ็กทั่วเอเชีย สำหรับทริป 3 วัน 2 คืน คุมค่าใช้จ่ายในราคาหมื่นเดียว

เชื่อว่าขาเที่ยวหลาย ๆ คนต้องเคยประสบปัญหาหนึ่งร่วมกันอย่างน้อยหนึ่งถึงสองครั้ง หรือกว่าหลายครั้งในชีวิต คืออยากไปเที่ยวต่างประเทศ แต่พอจะหาเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วยก็เวลาไม่ตรงกันบ้าง โดนเทก่อนวันนัดบ้าง หรืออาจจะเป็นเรื่องไลฟ์สไตล์ในการเดินทางต่างกันบ้าง เช่นคนหนึ่งชอบอากาศร้อน คนหนึ่งชอบฤดูหนาว หรือคนหนึ่งเป็นสายลุย คนหนึ่งชอบเที่ยวแบบสบาย ๆ กว่า จนมีอันทำให้แพลนเที่ยวต้องล่มทุกครั้งไป

แล้วถ้าเกิดเราออกเที่ยวแบบโซโล่เดี่ยวด้วยตัวเองมันเสียเลยล่ะ?!

วันนี้ Samurai Sim ขอมาแนะนำ “แพลนเที่ยวแบ็กแพ็ก (Backpack)” ต่างประเทศ โดยเน้นที่โซนเอเชียเป็นหลัก พร้อมคำนวณราคาค่าใช้จ่ายให้เสร็จสรรพในแบบราคาประหยัดสุด ๆ มีเพียงหนึ่งคน หนึ่งกระเป๋า และใจสู้ก็เพียงพอ จบปัญหาเรื่องต้องรอหาเพื่อนเที่ยว หรือต้องรอถามความเห็นจากเพื่อนร่วมทางเรื่องแพลนทัวร์ไปได้ (หรือจะหนีบเพื่อนไปเที่ยวด้วยอีกซักคนสองคนก็ไม่เสียหายนะ)

แต่ก่อนอื่น ปัจจัยในการเลือกปลายทางสำหรับเที่ยวแบ็กแพ็ก ที่ขาตะลอนทัวร์ควรคำนึงถึงหลัก ๆ มีทั้งหมดสี่ประเด็น ดังนี้

  1. ความปลอดภัยสูง

    ข้อนี้จะขาดไปไม่ได้เป็นอันขาด แม้จะตั้งใจไปเที่ยวแบบลุย ๆ หรือเป็นสายผจญภัยแค่ไหน แต่การเที่ยวก็ไม่ควรจะเป็นอันตรายถึงชีวิตนะ !

    การเลือกประเทศหรือเมืองที่จะไปท่องเที่ยว และจุดที่จะไปเยี่ยมชม ควรเป็นที่ที่มีอัตราการจี้ปล้น หรืออาชญากรรมต่ำสักหน่อย สามารถมองหาตำรวจเจอได้ง่ายเมื่อเกิดปัญหา หรือหากจะเลือกที่พัก แนะนำให้มองหาที่ที่มีคนสัญจรไปมา และหาคนช่วยเหลือได้กรณีเจอเรื่องไม่คาดฝันจะดีที่สุด

  2. ราคาประหยัด

    ข้อนี้ไม่ถึงกับจำเป็น แต่เชื่อว่านักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนต้องเทน้ำหนักให้กับสิ่งนี้เป็นอันดับต้น ๆ แน่นอน

    ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวมีอยู่หลายระดับ ซึ่งแปรผันกับไลฟ์สไตล์ที่เราจะเลือกใช้ด้วย เช่นร้านอาหารมิชลินสตาร์ย่อมต้องแพงกว่าร้านอาหารสตรีทฟู้ด หรือการนอนโฮสเทลต้องประหยัดกว่าโรงแรมห้าดาวอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น ส่วนนี้ขึ้นอยู่กับการวางแผนของทุกคนเลย

  3. เดินทางสะดวก

    แค่ลองจินตนาการว่าไปเที่ยว แต่ต้องใช้เวลาเดินทางจากที่หนึ่งไปถึงอีกที่ตั้งสองสามชั่วโมงดูสิ แค่คิดก็กร่อยแย่แล้วถูกมั้ย

    การเลือกเมืองท่องเที่ยวที่มีขนส่งทั่วถึง เช่นรถไฟฟ้า รถประจำทางที่ครอบคลุมทั่วทุกจุดทั้งขาไป และขากลับ หรือจะเป็นเมืองที่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้สบาย ๆ ทางเท้าเดินสะดวก มีไฟเปิดตลอดทางตอนกลางคืน จะช่วยให้ชีวิตของนักเดินทางง่ายดายขึ้นอย่างแน่นอน

  4. ภาษาอังกฤษ

    ไปนอกประเทศบ้านเกิดตัวเอง อย่างน้อยถ้ามีภาษาอังกฤษก็เอาตัวรอดได้แล้ว

    แม้เราอาจมีแพลนไปเยือนประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก แต่เพียงแค่มีป้ายสัญลักษณ์ หรือประกาศต่าง ๆ เป็นภาษาอังกฤษกำกับคู่ภาษาท้องถิ่นก็จะดีมาก ลดปัญหาเรื่องสื่อสารไม่เข้าใจไปได้อีกเยอะ หรือหากเป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักยิ่งดีใหญ่

และจากทั้งหมดที่กล่าวมา เราขอแนะนำทั้งหมด 4 เมืองที่คัดสรรมาแล้วว่าตอบโจทย์ตามทั้งสี่ข้อที่ตั้งมาตรฐานไว้ให้ เหมาะอย่างยิ่งกับทริปสั้น ๆ 3 วัน 2 คืน จะชอบท่องเที่ยวแบบเมืองหรือซึมซับบรรยากาศธรรมชาติก็ได้หมด ไม่เชื่อมาลองดูไปพร้อมกัน

บาหลี, อินโดนีเซีย

ประเทศแห่งน้ำทะเลใส ฟ้าสีคราม ธรรมชาติระดับดาวล้านดวง และสถาปัตยกรรมสุดเฉพาะตัว

หากมาเยือนบาหลี ควรมาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูเขาไฟบาตูร์ (Mount Batur) จากนั้นลงจากเขามาเยี่ยมชมหมู่บ้านเล็ก ๆ แต่สวยงามท่ามกลางสายหมอกอย่างหมู่บ้านคินตามณี (Kintamani), ไหว้สักการะที่วัดสำคัญของบาหลี ริมผาที่โอบล้อมด้วยน้ำทะเลอย่างวัดอูลูวาตู (Uluwatu Temple) ชมบรรยากาศริมน้ำตกท่ามกลางป่าไม้และขุนเขาอย่างน้ำตกเซกุมปุล (Sekumpul Waterfall), เช็กอิน ณ แลนด์มาร์กอันเป็นภาพจำของบาหลี วัดอูลันดานู บราตัน (Pura Ulun Danu Bratan) รวมถึงพักผ่อนสบาย ๆ ในวันแสนผ่อนคลายที่หาดปาดังปาดัง (Padang Padang Beach) เชื่อเถอะว่าหากได้ไปเยือนที่นี่แล้ว จะไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมบาหลีถึงได้กลายเป็นเดสทิเนชันยอดนิยมสำหรับการฮันนีมูนของคนทั่วโลก

ข้อที่ต้องทำใจนิดนึง คือถนนหนทางค่อนข้างจะสมบุกสมบันอยู่สักหน่อยเพราะภูมิประเทศที่เป็นเกาะและมีความโลคอลสูงมาก แนะนำให้เดินทางโดยการใช้รถที่มีความคล่องตัวแบบมอเตอร์ไซค์ จักรยาน หรือถ้าระยะไม่ไกลกันมาก หากเดินไปจะไวกว่าเยอะเลย

ค่าใช้จ่ายสำหรับ 3 วัน 2 คืน (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)

  1. ราคาที่พัก (2 คืน) : หากต้องการเซฟค่าใช้จ่าย แนะนำเป็นที่พักประเภท Hostel ราคาเฉลี่ยตกคืนละประมาณ 600 บาท หรือถ้าเป็นประเภทรีสอร์ท จะราคาเฉลี่ยเริ่มต้นที่ 1,400 บาทเป็นต้นไป = 1,000 – 2,800 บาท
  2. ค่ากิน (9 มื้อ) : มีหลายแบบ ทั้งสตรีทฟู้ด ร้านโลคอล หรือจะร้านอาหารในโรงแรม แต่ร้านอาหารทั่วไปจะเฉลี่ยราคาอยู่ที่ประมาณ 300 บาท/มื้อ = 2,700 – 3,000 บาท
  3. ค่าเดินทาง : แนะนำให้ใช้บริการ Shuttle bus แต่อาจจะต้องใจเย็นกับรถติดบนท้องถนนสักหน่อย หรือหากเป็นระยะทางใกล้ ๆ หรือถ้าใครเป็นสายซิ่งสักหน่อย จะลองเช่ามอเตอร์ไซค์มาแว้นรอบเกาะเลยก็ได้ (ยังไงอย่าลืมหมวกกันน็อกเพื่อความปลอดภัยนะ) ถ้าให้เฉลี่ยราคา จากกรณีเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่เอง ก็ตกอยู่ที่ประมาณ 200 – 300 บาทต่อวันเป็นอย่างต่ำ = 900 – 1200 บาท
  4. ค่าจิปาถะ : สำรองไว้ประมาณ 3,000 – 5,000 บาท
  5. อินเทอร์เน็ต* : ขอแนะนำบริการสุดคุ้มจาก Samurai Sime
    SIM by Samurai Sim Data 10GB/trip 10Days = 499THB

    รวมประมาณ 8,000 – 12,500 บาท

ดานัง, เวียดนาม

เมืองท่องเที่ยวใกล้เมืองไทย ที่ให้บรรยากาศหลากหลายได้ในที่เดียว

เมืองที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมเก่าแก่ และฮอตเพลสด้านศิลปะและสถาปัตยกรรมจุดใหม่ของเอเชีย โดยเมื่อมาเยือนดานังแล้ว อย่าพลาดที่จะและถ่ายภาพคู่สะพานมังกร  (Dragon River Bridge), นั่งกระเช้าลอยฟ้าไปชื่นชมความงามของสถาปัตยกรรมสไตล์ฝรั่งเศสที่บาน่าฮิลล์ (Bana Hill) เดินผ่านสะพานลอยฟ้าบนอุ้งมือขนาดมหึมา Golden Bridge สักการะเจ้าแม่กวนอิม ขอพรเรื่องสุขภาพและโชคลาภที่วัดหลินอึ๋ง (Linh Ung Pagoda) หรือจะไปชื่นชมสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงาม ณ ภูเขาหินอ่อน (Marble Mountain) ก็ขาดไปไม่ได้เช่นกัน

การเดินทางที่นี่ที่คนโลคอลนิยมที่สุดคือการซิ่งมอเตอร์ไซค์ เนื่องจากทั้งเร็วและสะดวกมากกว่าการโดยสารรถประเภทอื่น จะเช่ามาขับขี่เอง หรือจะใช้บริการแอพเรียกรถก็แล้วแต่สะดวก แต่เชื่อเถอะ ถ้ามาเวียดนามแล้วไม่ได้ซ้อนมอเตอร์ไซค์ถือว่ามาไม่ถึง

ค่าใช้จ่ายสำหรับ 3 วัน 2 คืน (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)

  1. ราคาที่พัก (2 คืน) : ที่พักทั่วไปจะไม่ค่อยแพงมาก ราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 500 – 600 บาทต่อคืน ขึ้นอยู่กับย่าน และสิ่งอำนวยความสะดวกด้วย = 1,000 – 1,500 บาท
  2. ค่ากิน (9 มื้อ) : ที่เด่น ๆ ในเวียดนามจะเป็นสตรีทฟู้ด และร้านอาหารโลคอล เมนูเด็ดที่เป็นของโปรดคนไทยหลาย ๆ คน อย่างเช่นเฝอ แหนมเนือง หรือจะอาหารเช้าอย่างไข่กระทะก็มีขายทั่วไป  ราคาเฉลี่ยที่ประมาณ 100 – 200 บาท/มื้อ = 1,800 – 2,000 บาท
  3. ค่าเดินทาง : แนะนำให้ใช้บริการแอพลิเคชันเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เพราะสะดวกกว่า และปลอดภัยกว่า ไม่จำเป็นต้องงมเส้นทางเองด้วย ถ้าบริหารดี ๆ จะอยู่ที่ประมาณ 300 – 500 บาทต่อวัน =  600 – 1,000 บาท
  4. ค่าจิปาถะ : สำรองไว้ประมาณ 3,000 – 5,000 บาท
  5. อินเทอร์เน็ต* : ขอแนะนำบริการสุดคุ้มจาก Samurai Sim 
    Sim Data 2GB/day 7Days = 599THB

    รวมประมาณ 7,000 – 11,000 บาท

ฮ่องกง

เมืองท่องเที่ยวยอดฮิตตลอดกาลของชาวไทย ถ้าไม่ใช่ฮ่องกงแล้วจะเป็นที่ไหนไปเสียล่ะ

เมืองแห่งแสงสีอันน่าตื่นตาอย่างฮ่องกง ศูนย์รวมของสตรีทฟู้ดและแหล่งชอปปิงขนาดใหญ่ที่สุดแหล่งของเอเชียตะวันออก หากมาถึงเกาะฮ่องกงแล้ว ต้องเริ่มจากการขึ้นไปพิชิตจุดชทวิวเหนืออ่าววิคตอเรียอย่าง Victoria Peak ยามเย็น, เยี่ยมเยือนย่านโลคอลอันเต็มไปด้วยวัฒนธรรมและสถาปัตย์แบบฉบับฮ่องกงขนานแท้ที่ย่านเกาลูนตะวันตก (West Kowloon), ชื่นชมวิถีชีวิตชาวประมงที่หมู่บ้านชาวประมงไทโอ (Tai O Fishing Village) บน เกาะลันเตา (Lantau Island), ท่องเที่ยวแบบย้อนวัยเด็กที่ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) และแวะไหว้เทพเจ้าด้ายแดงขอพรความรักที่วัดหวังต้าเซียน (Wong Tai Sin Temple)

เมื่อเทียบกับสองประเทศก่อนหน้าแล้ว ที่ฮ่องกงมีคมนาคมขนส่งที่สะดวกสบายกว่ามากพอสมควร ทั้งรถบัสประจำทางและรถไฟฟ้า แถมยังเป้นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องการเดินท่องเที่ยวยามราตรีอีกด้วย ไม่ว่าจะกลางคืนหรือกลางวันก็ปรับแพลนเที่ยวให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของทุกคนได้ตามใจเลย

ค่าใช้จ่ายสำหรับ 3 วัน 2 คืน (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)

  1. ราคาที่พัก (2 คืน) : ที่พักราคาสแตนดาร์ดของฮ่องกง เฉลี่ยอยู่ที่ 1,500 บาท/คืน (แต่ห้องจะค่อนข้างเล็กด้วยข้อจำกัดด้านพื้นที่ ต้องทำใจหน่อยนะ) = 3,000 บาท
  2. ค่ากิน (9 มื้อ) : ถ้าเน้นราคาย่อมเยา ขอแนะนำเมนูประเภทสตรีทฟู้ดเป็นหลัก สนนตกเฉลี่ยที่ประมาณ 300 บาท/มื้อ = 2,700 – 3,000 บาท
  3. ค่าเดินทาง : แนะนำให้ใช้บริการขนส่งสาธารณะอย่างบัสและรถไฟฟ้า อย่าลืมซื้อบัตร Octopus Card โดยจ่ายประมาณ 200 HKD (900 บาทโดยประมาณ) แยกเป็นค่ามัดจำบัตร 50 HKD และวงเงินในบัตรอีก 150 HKD ทีนี้ก็จ่ายค่าโดยสารตลอดทริปได้แบบสบาย ๆ แล้ว =  900 บาท
  4. ค่าจิปาถะ : สำรองไว้ประมาณ 3,000 – 5,000 บาท
  5. อินเทอร์เน็ต* : ขอแนะนำบริการสุดคุ้มจาก Samurai SimSim 10GB/Trip   7Days = 599THBeSim 10GB/Trip 7Days = 599THB

    รวมประมาณ  10,200 – 12,500 บาท

ไทเป, ไต้หวัน

หากจะพูดถึงเมืองที่ให้บรรยากาศคล้ายเมืองไทยในคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากไต้หวันเท่านั้น

ที่ไทเป เมืองหลวงของไต้หวัน นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศของความทันสมัยที่ผสมผสานกับความสงบเรียบง่ายของความเป็นไต้หวันขนานแท้ได้อย่างลงตัว เริ่มตั้งแต่ไนท์มาร์เก็ตชื่อดัง จุดต้องชมของไต้หวันอย่างตลาดกลางคืนซือต้า (Shida Night Market), แหล่งรวมความทันสมัยและแบรนด์ดังอย่างย่านชอปปิงซีเหมินติง (Ximending), แวะเยือนแลนด์มาร์กสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่าง อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก (Chiang Kai-Shek Memorial Hall) ไหว้พระขอพรที่วัดหลงซาน (Lungshan Temple) เพื่อความสิริมงคลต่อชีวิต

ข้อดีของไต้หวัน นอกจากค่าครองชีพที่ใกล้เคียงกับประเทศไทยแล้ว คือเดินทางสะดวก หาของกินได้ง่าย เรียกได้ว่าพบเจอได้ทุกตรอกซอกซอย แถมบรรดาสถานที่ท่องเที่ยวยังมีขนส่งสาธารณะเข้าถึงทุกจุดอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับนักเดินทางที่คิดจะแบ็กแพ็ก

ค่าใช้จ่ายสำหรับ 3 วัน 2 คืน (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)

  1. ราคาที่พัก (2 คืน) : มีให้เลือกตั้งแต่โฮสเทลจนถึงโรงแรม ถ้าเป็นโฮสเทล ราคาจะเริ่มต้นที่ 600 บาทเป็นต้นไป ส่วนโรงแรม ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 2,300 – 2,700 บาท/คืน สามารถจิ้มเลือกได้ตามความสะดวก = 1,200 – 5,400 บาท
  2. ค่ากิน (9 มื้อ) : ของกินเยอะมากๆมีตั้งแต่แบบข้างทางตามสตรีทฟู้ด จนถึงมิชลินสตาร์ โดยราคาก็จะไม่ต่างจากไทยมากนัก อาจจะตกมื้อละ 200 – 300 บาทโดยเฉลี่ย (หรือหากเป็นร้านอาหารระดับมิชลิน ก็อาจจะแพงขึ้นมาบ้าง ตกประมาณมื้อละ 1,000 บาท/คน = 1,800 – 2,700 บาท
  3. ค่าเดินทาง : แนะนำให้ใช้บริการ MRT เป็นหลัก โดยซื้อบัตร One-Day Pass ราคา 200 เหรียญไต้หวัน (ประมาณ 220 บาท) ต่อการเดินทาง 1 วัน =  660 บาท
  4. ค่าจิปาถะ : สำรองไว้ประมาณ 3,000 – 5,000 บาท
  5. อินเทอร์เน็ต* : ขอแนะนำบริการสุดคุ้มจาก Samurai Sim
    Sim 10GB/trip   30days = 599THB
    eSIM 10GB/trip 30days = 599THB

    รวมประมาณ  7,300 – 14,400 บาท

.box-btn-link { margin: auto; text-align: center; } .box-btn-link a { padding: 0.8rem 1.5rem; border: 1px solid #10498C; border-radius: 40px; transition: 0.3s; color: #10498C; font-size: 16px; text-decoration: none; } .box-btn-link a:hover { background: #10498C; color: #FFF; }

หลังจากเห็นแผนท่องเที่ยวแบ็กแพ็กฉบับเที่ยวคนเดียวที่ซามูไรนำมาเสนอในบทความนี้ หวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนตัดสินใจเก็บกระเป๋าเดินทางหนึ่งใบแล้วออกไปเผชิญโลกกว้าง นอกจากจะได้ประสบการณ์ชีวิตอันแสนสนุกสนานแล้ว ยังถือเป็นการก้าวออกจากเซฟโซนที่สร้างสรรค์มากอีกทางหนึ่งด้วยนะ

และสำหรับใครที่เตรียมการสำหรับการท่องเที่ยวเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้เตรียมอินเทอร์เน็ตไปใช้งานด้วยระหว่างทริป เพื่อความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร และความบันเทิงในช่วงเดินทาง ขอแนะนำบริการซิมการ์ด และ eSIM อินเทอร์เน็ตสำหรับใช้งานต่างประเทศโดย Samurai Sim ด้วยบริการครอบคลุมกว่า 6 ทวีป พร้อมดาต้าจัดเต็ม ตอบโจทย์ได้ทุกการใช้งาน หรือจะเป็น Pocket WiFi ก็มีให้บริการ รับรองว่าหากมี Samurai Sim เป็นเพื่อนร่วมทาง การท่องเที่ยวของคุณจะต้องราบรื่นไม่มีสะดุดอย่างแน่นอน

ติดต่อเรา:

โพสล่าสุด:

มาทำความรู้จัก อาร์ตทอย ’POP MART’ ของเล่นมาแรงในระดับสร้างปรากฏการณ์ห้างแตก!

หากคุณติดตามกระแสข่าว ทั้งทางสื่อโซเชียลและสื่อกระแสหลักในช่วง 1-2 วันผ่านมานี้ จะได้พบกับเรื่องราวที่มีคนจำนวนมหาศาลต่อคิวยาวเหยียดรอตรงลานหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์กันตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันที่

7 จุดแลนด์มาร์กสำคัญในนครโฮจิมินห์ เวียดนาม ที่ต้องห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!

หากจะกล่าวถึงเวียดนาม เมืองที่ผสมผสานระหว่างความเก่าแก่ในฐานะเมืองประวัติศาสตร์ และความทันสมัยในฐานะอีกหนึ่งในจุดศูนย์กลางเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างลงตัว ก็ต้องกล่าวถึง “นครโฮจิมินห์

แชะภาพสวยอวดโซเชียลได้แบบไม่ซ้ำ ณ คิวชู กับ 4 จุด Check-in ถ่ายรูปสุดชิค!

หากจะพูดถึงประเทศที่ชาวไทยนิยมเดินทางท่องเที่ยวทั้งระยะสั้นและยาวเป็นอันดับต้น แน่นอนว่าจะมองข้ามประเทศญี่ปุ่นไปไม่ได้เด็ดขาด แต่เชื่อว่าสำหรับสายตะลอนญี่ปุ่นหลายคนที่รู้จักแดนอาทิตย์อุทัยแห่งนี้แบบทะลุปรุโปร่ง รวมถึงไปเยือนเกือบทุกตรอกซอกซอยของเมืองใหญ่ ๆ

แนะนำ 4 แหล่งท่องเที่ยวสุด Unseen รอบนอกเมืองออสเตรเลีย เพราะที่นี่มีดีกว่าแค่ที่โอเปร่าเฮ้าส์ !

โดยปกติแล้ว หากจะกล่าวถึงการท่องเที่ยวในทวีปเล็ก ๆ แต่เต็มไปด้วยความยูนีคน่าค้นหาอย่างออสเตรเลีย ก็จะต้องหนีไม่พ้นสถานที่ยอดฮิตติดลมบนในสายตานักท่องเที่ยวอย่าง

ชี้เป้า 5 สถานที่ท่องเที่ยวสุด Unseen ในมาเก๊า ที่นักท่องเที่ยวชาวไทยห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง !

ทุกวันนี้ หากจะพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยเฉพาะในหมู่นักแสวงโชคทั้งชาวไทยและทั่วโลก จะต้องมีมาเก๊า เกาะเล็ก